เทรดทองคำ ควรใช้ indicator อะไรดี?
- oatindy7
- Oct 16, 2024
- 2 min read
ความท้าทายของการเทรดทองคำ XAUUSD นับวันจะยากมากขึ้นทุกที เพราะใครจะไปคิดว่าทองคำจะทำ ATH (All time high) แล้ว ath อีก (เวลาปัจจุบัน เดือนตุลาคม 2024 ราคาทองอยู่ที่ $2,667) ใครที่ชอบเทรดแนวรับแนวต้าน ช่วงหลังๆก็คงโดนกันไปพอสมควร เพราะกราฟพุ่งทะลุแนวต้าน โดยไม่ได้กลับตัวตามแผนอยู่บ่อยๆ
การใช้ Indicator หลายๆตัวมาประกอบกัน เพื่อช่วยวิเคราะห์ในการเทรดทองคำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการขาดทุนให้ทุกคน เพราะหากคุณใช้สัญญาณอินดี้แค่ไม่กี่ตัว ก็อาจจะเป็นสัญญาณหลอกได้
วันนี้เรามาดูกันครับว่า เครื่องมือ หรือ Indicator ตัวไหนที่ช่วยให้คุณเทรดทองคำได้ดียิ่งขึ้น ไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1. 3SMA (ใน TradingView)

การใช้ MA หรือ Moving Average ช่วยในการระบุแนวโน้มหลักของราคาทองคำ 3SMA ก็คือเส้น MA 3 เส้น ในเว็บTrading View เราสามารถกำหนดค่าของแต่ละเส้นได้ตามใจชอบเลย เลือกสีได้ด้วย
ปกติตัวผมเองจะใช้ SMA 20, SMA 60 เป็นการดูแนวโน้มระยะสั้น และ SMA 200 ใช้ในการระบุแนวโน้มระยะยาว
2. Relative Strength Index (RSI)

RSI ถ้าตามตำราเลย ก็คือช่วยวัดระดับความซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) ในการเทรดทองคำ ค่ามาตรฐานของ RSI อยู่ที่ 14 ซึ่งค่าที่มากกว่า 70 บ่งบอกถึงภาวะ Overbought และค่าที่น้อยกว่า 30 บ่งบอกถึงภาวะ Oversold แต่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นช่วงเทรนชัดเจน มักจะใช้ไม่ค่อยได้ผล
RSI สามารถใช้เพื่อหาสัญญาณกลับตัว (Divergence) โดยใช้การตีเส้น Trendline จุดที่เป็น high เดิม กับ high ล่าสุด โดยตีเทรนด์ไลน์ทั้งในตัวกราฟราคา และกราฟ RSI ด้วย ถ้าเกิดการขัดแย้งกัน อย่างในภาพ กราฟราคาทำ high สูงขึ้น แต่ใน RSI ทำราคา high ที่ต่ำลง นี่คือสัญญาณ Divergence อาจจะมีการกลับตัวเป็นขาลง ให้เทรดเดอร์พิจารณา Sell เป็นต้น แต่ก็ควรใช้ควบคู่กับ Indicator ตัวอื่นประกอบด้วย
3. Bollinger Bands
Bollinger Bands ใช้ระบุความผันผวนของราคาทองคำ โดยประกอบด้วยเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) และเส้นขอบที่แสดงถึงส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)
เมื่อราคาทองคำเคลื่อนไหวใกล้ขอบบนของ Bollinger Bands หมายถึงภาวะ Overbought และเมื่อราคาทองคำใกล้ขอบล่าง หมายถึงภาวะ Oversold
Bollinger Bands ยังสามารถช่วยในการวิเคราะห์การ Breakout ได้ เมื่อราคาทองคำทะลุขอบใดขอบหนึ่งของ Bollinger Bands อาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม
4. MACD (Moving Average Convergence Divergence)
MACD เป็น Indicator ที่ช่วยในการจับสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มและหาจุดเข้าออกในการเทรดทองคำ โดยการวิเคราะห์เส้น MACD และ Signal Line รวมถึงการดู Histogram เพื่อคาดการณ์ทิศทางของราคา
เมื่อลากเส้น MACD ตัดขึ้นไปเหนือ Signal Line เป็นสัญญาณซื้อ และเมื่อลากลงต่ำกว่า Signal Line เป็นสัญญาณขาย นอกจากนี้ การดู Divergence ระหว่าง MACD กับราคาทองคำสามารถบ่งบอกถึงการกลับทิศทางได้
5. Fibonacci Retracement
Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือที่ใช้เพื่อระบุแนวรับและแนวต้านที่สำคัญในการเทรดทองคำ ซึ่งช่วยให้คุณหาจุดกลับทิศทางหรือจุดเข้าออก
ระดับ Fibonacci ที่นิยมใช้ ได้แก่ 38.2%, 50%, และ 61.8% ซึ่งเป็นจุดที่ราคาทองคำมักจะกลับทิศทางหรือมีการรีบาวด์ หากราคาเคลื่อนไหวกลับมาที่ระดับใดระดับหนึ่งของ Fibonacci อาจเป็นโอกาสในการเข้าเทรด
6. ATR Range Probability (ใน TradingView)

ATR เป็น Indicator ที่ใช้วัดความผันผวนของราคาทองคำ ATR ไม่ได้บอกทิศทางราคา แต่ช่วยให้คุณเข้าใจถึงระดับความผันผวนในช่วงเวลานั้นๆ
ATR Range Probability จะมีเส้นแนวนอน 5 เส้น แต่ละเส้นจะเป็นช่วงราคา แสดงระดับราคาในแต่ละวัน ราคาทองคำจะขึ้นลงเท่าไหร่ในแต่ละวัน ATR/Day ซึ่งมาจากสถิติช่วงก่อนหน้า Indicator ตัวนี้จะกะระยะกราฟทองคำว่าจะวิ่งไปถึงไหน โดยส่วนใหญ่จะไม่เกินเส้นบนสุด และเส้นล่างสุด (ใช้เป็นแนวรับ-แนวต้านได้) แต่ก็ไม่เสมอไป เพราะถ้าเป็นช่วงที่ข่าวแรงๆ มักจะทะลุไปได้ไกลเหมือนกัน
7. Ichimoku Cloud
Ichimoku Cloud หรือ Ichimoku Kinko Hyo เป็น Indicator ที่ช่วยระบุแนวโน้ม ระดับแนวรับและแนวต้าน รวมถึงจุดกลับทิศทางได้ดี
Ichimoku Cloud มีองค์ประกอบหลายส่วน เช่น Kijun-sen, Tenkan-sen, และ Senkou Span A และ B ซึ่งช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของตลาดทองคำแบบครบวงจร โดยทั่วไป ถ้าราคาอยู่เหนือ Cloud แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้น และถ้าราคาอยู่ต่ำกว่า Cloud แสดงถึงแนวโน้มขาลง
การเลือกใช้ Indicator ขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดของคุณ ทางที่ดีควรลองใช้ Indicator หลายๆ แบบ และปรับให้เข้ากับกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับตลาดทองคำในสภาวะนั้นๆ เนื่องจากราคาทองคำมีความผันผวนสูง การใช้ Indicator ร่วมกับการจัดการความเสี่ยงที่ดี จะช่วยให้คุณตัดสินใจเข้าเทรดได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
Commentaires