ทำอย่างไร ถึงจะไม่โดนโกง โดนหลอกลงทุนจนสูญเสียหมดตัว

ช่วงนี้ประเทศไทยมีข่าวโกงเงินกันเยอะมาก เช่นบริษัทขายตรง the icon, คดีทองแม่ตั๊ก, หมอบุญ, อย่างในตลาด forex ก็จะมีเรื่องของ Forex3D ที่เป็นข่าวดังเมื่อหลายปีก่อน ไหนจะพวกแก๊ง Call Center เราควรทำยังไงถึงไม่เหยื่อ โดนพวกนี้หลอกเงินได้

หลากหลายเล่ห์เหลี่ยม คนโกง

ลองไปฟังสัมภาษณ์จากกูรูในตลาดหุ้นระดับหมื่นล้าน อย่าง ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ว่าท่านจะมีคำแนะนำอย่างไร

คนเราทุกคนนั้นมี “ยีนโกง” ในตัวกันทุกคน ทุกคนมีความเห็นแก้ตัว แล้วแต่ว่าจะมีมากหรือน้อยแค่ไหน เพราะคนที่ไม่โกงเลยตั้งแต่สมัยหมื่นปีแสนปีนั้น ตายหรือสูญพันธุ์กันไปหมดแล้ว มนุษย์ที่เหลือรอดอยู่นั้นจะต้องมี “ยีนโกง” กันทุกคนถึงจะเอาตัวรอดได้

• คนที่คิดจะโกงเขาจะประเมินแล้วว่า “ผลตอบแทน” ที่จะได้รับหากโกงสำเร็จ จะคุ้มค่ามากพอเมื่อเปรียบเทียบกับความร่ำรวยของตนเอง ในขณะที่ “ความเสี่ยง” จากการ “ถูกจับได้” และ “โทษทัณฑ์” ที่จะได้รับมากน้อยแค่ไหน นี่ก็คือ “Risk- Reward Ratio” หรือ “สัดส่วนผลตอบแทนเทียบกับความเสี่ยง” ที่นักเทรดหุ้นหรือเทรด Forex ต่างรู้กันดี ถ้าได้เป็นหลักสิบล้าน ถึงพันล้าน ก็น่าเสียง แต่ ถ้าได้แค่ 1-2 ล้านบาท แต่ความเสี่ยงจะต้องติดคุกสูงและหนัก เขาก็จะไม่โกง

• ในกรณีของการปั่นหุ้นหรือพวกเหรียญมีมคริปโต หรือหลอกลวงคนเข้ามาเล่น “แชร์ลูกโซ่” ที่อาจจะทำให้ได้กำไรเป็นร้อยหรือพันล้านบาท แต่โอกาสถูกจับน้อย หรือถึงจะถูกจับได้ก็อาจจะถูกลงโทษไม่แรง แบบนี้คนก็จะทำกันมาก แต่ต้องมีความรู้เรื่องเทคโนโลยีขั้นสูงด้วย

• การปั่นหุ้นด้วยการ “Corner หุ้น” ที่คนทำ “กวาด” ซื้อหุ้นที่มี “Free Float” หรือมี “หุ้นหมุนเวียน” ในตลาดน้อย เช่น มีแค่ 25-30% ของหุ้นทั้งบริษัท จนเกือบหมดตลาด ส่งผลให้ราคาหุ้นวิ่งขึ้นไปแรงมากขนาดหลายเท่าตัวในเวลาแค่ไม่กี่เดือนหรือแค่ปีหรือสองปีและเป็นราคาที่แพงผิดปกติมาก ผลตอบแทนที่ได้รับจากการคอร์เนอร์หุ้นมักจะสูงมาก หลักพันล้านเลยทีเดียว แต่ความเสี่ยงที่จะถูกจับได้และถูกลงโทษตามกฎหมายกลับไม่มี เพราะไม่มีกฎหมายที่บอกว่าการ Corner เป็นสิ่งที่ผิดข้อใด แต่การ Corner หุ้นได้ต้องเป็นคนที่มีพอร์ตใหญ่มากๆ ซึ่งก็มีน้อยคนที่จะทำได้

• การโกงด้วยวิธีแชร์ลูกโซ่ บริษัทที่โกง และคนที่เป็นแม่ทีม มักจะได้ผลตอบแทนที่สูง และเร็วมาก เนื่องจากกลยุทธ์ที่อาศัยความโลภของคน หรือคนที่อยากหาช่องทางสร้างรายได้ และด้วยประสิทธิภาพของสื่อสังคมในปัจจุบัน การดึงดูดหรือชักจูงคนโดยเฉพาะจากดารา อินฟูลต่างๆ ก็ค่อนข้างได้ผลดี

  
  
  
  

  

  
  

  ความเสี่ยงในการถูกจับได้ และบทลงโทษของแชร์ลูกโซ่นั้น ดูเหมือนว่าจะสูง อย่างไรก็ตาม วิธีการของแชร์ลูกโซ่ “ยุคใหม่” กับวิธีการค้าขายแบบ “การตลาดหลายชั้น” ที่ไม่ผิดกฎหมายนั้น ใกล้เคียงกันมาก สิ่งที่ต่างกันก็อาจจะเป็นแค่ว่าสินค้าที่ขายนั้น “มีค่า” หรือไม่ ถ้าเป็นสินค้าที่มีค่ามีความต้องการจริงจากผู้ใช้ ก็ถือว่าไม่ใช่แชร์ลูกโซ่และไม่ผิดกฎหมาย ตรงนี้ทำให้บริษัทที่โกง อาศัยช่องว่างตรงนี้เพื่อเลี่ยงการเป็นแชร์ลูกโซ่

  
  
  
  

  ประเด็นก็คือ คนที่ทำก็อาจจะตีความว่าสินค้าของตนนั้น “มีค่า” สามารถรักษาหรือให้ประโยชน์แก่ผู้ใช้จริง อย่างน้อยก็ทางด้านจิตใจ ซึ่งก็อาจจะไม่ได้แตกต่างกับสินค้าของบริษัทอื่นที่ก็ทำมาช้านานโดยที่ไม่มีความผิด และดังนั้น จึงไม่เสี่ยงที่จะถูกจับ

โกงกันมาก แก้ยังไงดี?

• ในส่วนของภาครัฐควรปรับแก้กฎหมายและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่จะทำให้การโกงทำได้ยากขึ้น

• เรื่องการโกงผ่านสื่อดิจิทัลนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางภาครัฐ ต้องคอยตรวจสอบตั้งแต่แรกว่าเว็บหรือสื่อไหนโกง ก็ต้องรีบจัดการทันที

• ไม่โลภ การลงทุนอะไรที่ให้ผลตอบแทนที่สูงจนเวอร์ ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ หากมีข้อเสนอที่ให้ผลตอบแทนสูงเกินปกติ เช่น ลงทุน 1 แสนบาท แล้วจะได้กำไรต่อเดือนเกิน 20% อันนี้ก็เกินจริงแล้ว ในความเป็นจริง กำไรที่สูงขนาดนี้ จะเป็นไปได้ยากมากๆ พวกนี้ควรหลีกเลี่ยงให้ไกลเลย

• ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบริษัท: ก่อนเข้าร่วมธุรกิจขายตรงหรือการลงทุนใด ๆ ควรตรวจสอบว่าบริษัทนั้นได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่จดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)

• ป้องกันการถูกหลอกลวงทางออนไลน์: หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือหรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจากแหล่งที่ไม่ปลอดภัย ควรใช้รหัสผ่านที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละบัญชี และไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลทางการเงินผ่านช่องทางที่ไม่ปลอดภัย

เพื่อป้องกันตนเองจากการถูกหลอกลวงในลักษณะนี้ ควรระมัดระวัง พวกบริษัทที่มีข้อเสนอที่ให้ผลตอบแทนสูงเกินจริง และตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบริษัท หรือบุคคลที่ชักชวนให้ลงทุนอย่างละเอียด รวมถึงศึกษาข้อมูลและความเสี่ยงของการลงทุนประเภทนั้น ๆ อย่างถี่ถ้วน